เมื่อคุณได้ก้าวเข้าสู่ขั้นตอนการ ที่ทำงานใกล้ bts แล้วนั้นมีหลายสิ่งที่คุณจะต้องเรียนรู้และปรับตัว เพื่อให้เกิดความเหมาะสมกับรูปแบบการทำงานในปัจจุบันของคุณ แน่นอนว่าหากชีวิตในการทำงานของคุณเคยมีโอกาสผ่านการทำงานมากหลากหลาประเภท สิ่งที่คุณจะต้องเรียนรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงในระบบการทำงานคือ การสร้างความโดดเด่นและแตกต่างจากผู้สมัครงานคนอื่นๆ เพื่อให้ประวัติและคุณสมบัติของคุณมีความน่าสนใจกว่าคู่แข่งขันคนอื่นๆ
ดังนั้นหากคุณมีความคาดหวังที่อยากจะได้งานเร็ว สิ่งสำคัญคือคุณจะต้องเตรียมความพร้อม ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลต่างๆ รวมถึงเอกสารในการสมัครงาน เพื่อให้ผู้คัดเลือกได้มองเห็นถึงความตั้งใจของคุณอย่างแท้จริง นอกจากนี้คนทำงานในยุคปัจจุบันหลายคนมักจะประสบกับปัญหาทำงานตามคำสั่ง บางครั้งงานที่ตัวเองทำอยู่ในปัจจุบันอาจจะไม่ได้เป็นงานที่ตนเองชอบหรือมีความถนัด แต่เนื่องจากบทบาทในชีวิตประจำวันของเราที่จำเป็นต้องมีปัจจัยพื้นฐานในเรื่องของเงินที่เป็นสำคัญ จึงทำให้การดำเนินชีวิตถูกบีบบังคับให้ต้องทำงานไปโดยปริยาย
3 ขั้นตอนพิชิตใจ HR
- เป้าหมายในอาชีพ หากคุณต้องการจะเปลี่ยนงาน สิ่งแรกที่คุณจะต้องถามตนเองก่อนก็คือ คุณมีเป้าหมายและจุดประสงค์ในการทำงานอย่างไร เพราะหากคุณไม่ได้มีการวางแผนหรือเป้าหมายในการทำงาน การเปลี่ยนงานของคุณก็อาจจะไม่ส่งผลถึงความเปลี่ยนแปลงในรูปแบบการทำงานเท่าที่ควร ดังนั้นก่อนที่คุณจะตัดสินใจทำอะไร สิ่งแรกคือ คุณจะต้องรู้ความต้องการรวมถึงเป้าหมายของตนเองเสียก่อน เพื่อที่จะวางแผนและพัฒนาตนเองให้ไปสู่เป้าหมายนั้นๆ ได้สำเร็จ
1.1 ในตำแหน่งงานเดิม ไม่ว่าคุณจะประกอบอาชีพอะไรสิ่งแรกที่คุณจะต้องคำนึงถึงคือ การสร้างแรงบันดาลใจในการทำงาน เพื่อให้คุณได้ทำงานเหล่านั้นอย่างมีความสุข รวมถึงสามารถทำงานเหล่านั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลายคนไม่ได้มีการวางเป้าหมายในการทำงาน หากไม่มีความกระตือรือร้น คุณก็จะทำงานย่ำอยู่กับที่ ไม่มีโอกาสได้เลื่อนขันหรือเลื่อนตำแหน่งงาน
1.2 ในตำแหน่งงานที่สูงขึ้น หากคุณอยากจะมีการพัฒนาตนเองให้เกิดความก้าวหน้า สิ่งสำคัญคือการเรียนรู้หรีอว่างเป้าหมายในการทำงาน พร้อมดำเนินงานตามให้เป็นไปตามที่ตนเองได้กำหนดไว้ ซึ่งหลายคนมักจะหาวิธีการเลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่ง หรือปรับเงินเดือน ส่วนใหญ่มักจะเปลี่ยนงานเพื่อต่อยอดให้ตนเองมีความก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น
1.3 ในตำแหน่งงานที่มีความเกี่ยวข้องกับสายงาน บางครั้งหากคุณอยากจะทำการหาประสบการณ์ใหม่ๆ ในการทำงาน อาจจะลองเรียนรู้สายอาชีพอื่นๆ เพื่อเข้ามาเติมเต็มแนวทางการทำงานของคุณให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้หากคุณได้ลองทำงานที่มีความหลากหลาย ก็จะทำให้คุณได้ลองเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เรียกว่าช่วยเสริมให้คุณมีความสามารถพิเศษมากขึ้นอีกด้วย
- ทักษะในการพัฒนาตนเอง หากคุณไม่อยากตกงาน หรือทำงานย่ำอยู่กับที่ อย่างหยุดที่จะพัฒนาตนเอง อย่าหยุดที่จะเรียนรู้ และก้าวไปให้ถึงเป้าหมายที่คุณได้วางเอาไว้
2.1 เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ หากคุณต้องการที่จะมีความก้าวหน้าในอาชีพ ไม่ควรที่จะหยุดนิ่งอยู่กับที่ ลองศึกษาหาความรู้ใหม่ๆ เพิ่มเติม รวมถึงได้ลองทำสิ่งใหม่ๆ ที่ตนเองไม่เคยทำมาก่อน เพื่อช่วยพัฒนาต่อการทำงานของคุณให้ก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น
2.2 เปิดใจยอมรับ เนื่องจากยุดสมัยมีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ทำให้รูปแบบและวิธีการทำงานก็มีความแตกต่างไปจากสมัยก่อน ทำให้คนที่งานในยุคเก่าต้องลองเปิดใจยอมรับความเปลี่ยนแปลง
ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น พร้อมตั้งรับและเรียนรู้เพื่อให้เกิดการพัฒนาและตามให้ทันต่อเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทต่อชีวิตประจำวัน
2.3 รู้จุดบกพร่องของตนเอง หากคุณมีโอกาสได้ทำงานไปสักระยะคุณจะรู้จุดบกพร่องในการทำงานของตนเองเลย ว่าคุณขาดส่วนใดอยู่ดังนั้นหากรู้แล้ว ต้องหาโอกาสศึกษาเพิ่มเติมเพื่อต่อยอดหรืออุดช่องโหว่ของจุดบกพร่องเหล่านั้น
- การสร้างความประทับใจ ผู้คัดเลือกหลายคนมักให้ความสำคัญกับความประสบใจครั้งแรกกับผู้สมัครงาน เพราะพวกเค้าสามารถมองเห็นบุคลิกภาพผู้สมัครงานเบื้องต้น ว่าโดนใจหรือมีความเหมาะสมกับตำแหน่งงานนั้นๆ หรือไม่ ต้องยอมรับว่าบุคลิกภาพรวมถึงหน้าตา ค่อนข้างมีความสำคัญกับบางสายอาชีพที่มีความจำเป็นต้องใช้หน้าตา รวมถึงการมีบุคลิกหน้าตาที่ดี จะช่วยให้ภาพรวมขององค์กรดูน่ามองและน่าอยู่มากขึ้นอีกด้วย
3.1 บุคลิกภาพ ผู้สมัครงานที่มีบุคลิกภาพดีก็จะทำให้ผู้คัดเลือกมีความเชื่อมั่นในการทำงานมากขึ้น เพราะมันเปรียบเสมือนบททดสอบที่จะช่วยให้คุณได้คะแนนจากสิ่งเหล่านั้น ดังนั้นจุดเล็กๆ แบบนี้ผู้สมัครงานไม่ควรที่จะมองข้าม
3.2 มนุษยสัมพันธ์ ทุกสังคมการทำงานแน่นอนว่าส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการทำงานร่วมกับคนหมู่มาก ดังนั้นอีกสิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญไม่แพ้ส่วนอื่นๆ เลยก็คือการที่คุณมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี รู้จักที่จะสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน ซึ่งผู้สมัครงานบางคนอาจจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับส่วนนี้ แต่คุณอย่าคิดว่าไม่สำคัญ เพราะงานทุกประเภทมักจะต้องมีการติดต่อประสานงานกับฝ่ายอื่นๆ อีกด้วย
3.3 ทักษะทางด้านการใช้ภาษา นอกจากภาพรวมในการสร้างความประทับใจแล้ว สิ่งอื่นที่มีความสำคัญไม่แพ้กันเลยก็คือ ทักษะทางด้านการใช้ภาษาเพื่อช่วยให้ระบบการทำงานในสังคม ทำงานอย่างราบรื่นรวมถือช่วยให้การติดต่อประสานงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งหากว่าคุณเป็นผู้สมัครงานที่มีปัญหาทางด้านทักษะในการใช้ภาษา แน่นอนว่าช่วงการสัมภาษณ์งาน ผู้คัดเลือกจะสามารถประเมินคุณได้เลย ว่าคุณมีความเหมาะสมกับตำแหน่งงานนั้นหรือไม่
นอกจากที่คุณผู้สมัครงานจะต้องศึกษาเตรียมความพร้อม เพื่อให้ตนเองเป็นบุคคลที่น่าสนใจหรือสะดุดตาผู้คัดเลือกนั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หากคุณลองปรับวิธีและเทคนิคให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป จะทำให้ใบสมัครงานของคุณมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้นอีกด้วย